วิศวกร VS ฟิสิกส์ยุคใหม่
(ตอนที่๘)
Download
PDF File
๑๖. ปัญหาของทฤษฎีโครงสร้างมาตรฐานของอนุภาคทางฟิสิกส์ ถึงตอนนี้เราจะวกกลับมาพิจารณาทฤษฎีโครงสร้างมาตรฐานของอนุภาคทางฟิสิกส์ซึ่งเราเคยได้เกริ่นไว้ครั้งแรก
(ตอนที่๑หัวข้อ
๒)โดยสรุปว่า ทฤษฎีนี้สามารถอธิบายปรากฏการทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ได้
(ยกเว้นแรงโน้มถ่วง
ซึ่งดึงดูดทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลให้รวมกันอยู่ได้)
ถัดมา(ก่อนจะจบตอนที่แล้ว)
ได้บอกว่าทฤษฎีนี้อิงบนเสาหลักสองต้นคือ
ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษของไอน์สไตน์กับทฤษฎีกลศาสตร์ควอนตัม
ซึ่งทฤษฎีแรกมีหลักที่สำคัญคือ
อวกาศเป็นที่ว่างเปล่า
ส่วนทฤษฎีหลังนั้นกลับเป็นตรงกันข้าม
เพราะในอวกาศนั้นเต็มไปด้วย
สิ่งที่ถูกเรียกว่า
คลื่นพลังงานควอนตัม
และที่สำคัญสุดคือปัญหาที่กล่าวไว้ในหัวข้อที่๑๕
ซึ่งเราได้สรุปว่า
การมีอยู่ของสนามพลังฮิกส์ซึ่งเป็นไปตามคำทำนายของทฤษฎีโครงสร้างมาตรฐานของอนุภาคทางฟิสิกส์นั้นขัดกับทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ (ซึ่งเป็นเสาหลักของทฤษฎีโครงสร้างมาตรฐานของอนุภาคทางฟิสิกส์เอง)
และเมื่อถึงตอนนี้เราจะมาพิจารณาว่าทำไมมันถึงเป็นเช่นนั้น
และจะแก้ไขได้หรือไม่อย่างไร
๑๗. สถานะภาพของทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ (EISTEIN THEORY
OF RELATIVITY) ก่อนที่เราจะพูดถึงปัญหาที่เกี่ยวข้อง
ตอนนี้ให้มาดูว่าสถานะภาพของทฤษฎีสัมพัทธภาพฯนี้ในแวดวงนักวิทยาศาสตร์เห็นเป็นอย่างไร
พวกเขาเชื่อหรือไม่ว่ามันมีปัญหาจึงทำให้เกิดการมีอยู่ของสนามพลังฮิกส์
ซึ่งจากการสังเกตของผู้เขียนได้ข้อสรุปว่ามีอยู่สามส่วนคือ
กลุ่มแรกคือนักฟิสิกส์ส่วนใหญ่ที่เชื่ออย่างสนิทใจว่าทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์นั้นไม่มีวันที่จะผิด
(เสมือนว่าตัวไอน์สไตน์เป็นดุจด้งพระเจ้า)
แต่ยังไม่แน่ใจว่าทำไมทฤษฎีโครงสร้างมาตรฐานของอนุภาคทางฟิสิกส์จึงทำให้เกิดการมีอยู่ของสนามพลังฮิกส์
และไม่เชื่อว่าการมีอยู่ของสนามพลังฮิกส์เป็นการพิสูจน์ว่า
มีอีเธอร์
(เพราะจะมีผลทำให้ไอน์สไตน์ผิด)
|
|
|
|
รูปการ์ตูนไอน์สไตน์
กลุ่มที่สองเป็นนักฟิสิกส์ส่วนน้อยที่กลับเชื่ออย่างสนิทใจว่าทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ไม่มีวันที่จะถูกต้อง
(เสมือนว่าตัวไอน์สไตน์เป็นดุจดังซาตาน) และก็ยังไม่แน่ใจอีกเหมือนกันว่าทำไมทฤษฎีโครงสร้างมาตรฐานของอนุภาคทางฟิสิกส์จึงจึงทำให้เกิดการมีอยู่ของสนามพลังฮิกส์ แต่กลับไปเน้นตรงประเด็นว่าทฤษฎีนี้ได้พิสูจน์ว่าไอน์สไตน์ผิดที่บอกว่าไม่มีอีเธอร์
กลุ่มที่สามเป็นนักฟิสิกส์ส่วนน้อยอีกกลุ่มที่มีความเห็นว่า
ไอน์สไตน์เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งเพียงแต่มีความฉลาดเป็นพิเศษ
จึงอาจมีความผิดพลาดได้ แต่พวกเขาก็ยังไม่รู้ว่าทำไมและอย่างไรที่ทฤษฎีโครงสร้างมาตรฐานของอนุภาคทางฟิสิกส์
จึงทำให้เกิดการมีอยู่ของสนามพลังฮิกส์ที่ขัดแย้งกับทฤษฎีสัมพัทธภาพซึ่งเป็นส่วนประกอบหนึ่งในโครงสร้างของตัวมันเอง
อนึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าในกลุ่มที่สามนี้
มีคนจำนวนหนึ่งที่มากพอสมควรเป็นวิศวกร
ซึ่งรวมตัวผู้เขียนเองด้วย โดยเหตุผลที่เป็นเช่นนั้นน่าจะเป็นเพราะนิสัยที่มีจิตสำนึกด้านกลไกรในการทำงานของสิ่งต่างๆที่เขาเกี่ยวข้อง
ซึ่งเรียกว่า
ENGINEERING
MECHANICS SENSE
(ตามทีเราได้พูดถึงมาก่อนแล้ว)
และในกรณีนี้เช่นกันมันเป็นความท้าทายที่ตัวผู้เขียนอดไม่ได้ที่จะลองค้นหาดู
เอ้ามาร่วมด้วยช่วยกันนะครับ
๑๘. หลักการของทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษฯ (SPECIAL THEORY OF
RELATIVITY)
ก่อนอื่นขอเพิ่มเติมความเข้าใจสำหรับผู้ที่ยังไม่แข็งแรงเรื่องทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์
โดยเราจะมาดูรายละเอียดกันว่ามันเป็นอย่างไร
ซึ่งสรุปอย่างคร่าวๆโดยจะเริ่มต้นด้วยทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ
และเหตุที่พิเศษเพราะมันพูดถึงเฉพาะ
(SPECIFIC) เรื่องการปรับเปลี่ยนหลักการกลศาสตร์พื้นฐานทั่วไปของเซอร์ไอแซคนิวตัน
(ซึ่งเกี่ยวกับแรงและการเคลื่อนที่
ยกเว้นแรงโน้มถ่วง)
ที่พวกเราคุ้นเคยดีจนกลายเป็นสามัญสำนึก
แต่ต้องถูกเปลี่ยนไปเพราะเป็นผลเนื่องจากสมมุติฐานใหม่ของไอน์สไตน์
(ที่เกี่ยวกับกรอบอ้าวอิงและความเร็วของแสง)
ซึ่งขัดแย้งกับสามัญสำนึกเก่าที่เราคุ้น
|
|
รูปไอน์สไตน์
VS นิวตัน
หมายเหคุ อีกส่วนหนึ่งของทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์คือ
ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป (GENERAL THEORY OF
RELATIVITY) ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับแรงและการเคลื่อนที่ทุกอย่างในจักวาลโดย รวมทั้งแรงโน้มถ่วง (ยกเว้นกลศาสตร์ควอนตัม) ที่เราจะได้พูดถึงต่างหากภายหลัง
ถึงตอนนี้เราจะมาพูดถึงรายละเอียดของสมมุติฐานหลักสองข้อของไอน์สไตน์
โดยข้อแรกกล่าวว่า
ความเร็วของแสงเป็นความเร็วสูงสุดซึ่งคงที่ในทุกกรอบอ้าวอิง ซึ่งเมื่อผู้อ่านดูต่อไปจะพบว่ามันเป็นประเด็นสำคัญที่จะทำให้เกิดความขัดแย้งกับหลักการกลศาสตร์พื้นฐานทั่วไปของเซอร์ไอแซคนิวตัน
โดยในตอนต่อไปเราจะพิจารณาว่าทำไมมันจึงเป็นต้นเหคุของปัญหาต่างๆ
สำหรับหลักข้อที่สองคือ
สูตรทางฟิสิกส์มีลักษณะเดียวกันในทุกกรอบอ้าวอิง
ซึ่งสำหรับสมมุติฐานข้อนี้มีจุดที่มักจะถูกตีความผิดจากที่เป็นจริง
ทำให้เกิดความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง
และเราจะพูดถึงอีกภายหลังเมื่อพิจารณาหลักข้อแรกแล้ว
จึงขอให้ผู้อ่านติดตามต่อไปเพราะเรื่องกำลังเข้มข้นครับ!!!